รัฐบาลประกาศ รองรับเอกสารดิจิทัล ไม่ต้องถ่ายเอกสารอีกต่อไป

ตั้งแต่ 10 มกราคม 2566 รัฐบาลยุคดิจิทัลประกาศรองรับเอกสารดิจิทัล โดยมีการเพิ่มรูปแบบ e-Service ติดต่อออนไลน์เพื่อความสะดวกรวดเร็ว แก่ผู้ใช้บริการต่างๆ ที่ต้องการส่งเอกสารเพื่อติดต่อ การนำเทคโนยีดังกล่าวมาใช้นั้น สอดคล้องกับปัจจุบันที่มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในองค์กรต่างๆ เพื่อความสะดวกรวดเร็ว รองรับพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของประชาชนในปัจจุบัน การนำรัฐบาลสู่ยุดดิจิทัลนั้น โดยประชาชนสามารถยื่นคำขออนุญาตโดยวิธีการอิเล็กทรอนิกส์ได้ หากเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องปฏิเสธไม่รับการขออนุญาตไม่ได้

พระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2565 ได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา และจะมีผลใช้บังคับทั้งฉบับวันที่ 10 มกราคม 2566 ทั้งนี้ในการติดต่อราชการทุกแห่งสามารถทำได้ด้วยออนไลน์ โดยไม่จำเป็นต้องไปทำธุรกรรมด้วยตนเอง ยกเว้นการให้บริการบางอย่าง

การบริการที่ยกเว้นในการยื่นเอกสารออนไลน์ ต้องไปทำด้วยตนเอง

จดทะเบียนสมรส
การจดทะเบียนหย่า
แจ้งรับบุตรบุญธรรม
การทำบัตรประชาชน
พาสปอร์ต

เนื่องจากการบริการดังกล่าวเป็นข้อมูลส่วนตัวที่ต้องกระทำหลายขึ้นตอน แต่ถึงอย่างไรก็ตามเพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพแก่การปฏิบัติราชการของภาครัฐ และยังรองรับสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของประชาชนในปัจจุบัน ประชาชนจะได้รับความสะดวกในการติดต่อราชการ ในการยื่นขออนุญาตต่างๆ ภายในภาครัฐ ขอรับสวัสดิการ สามารถยื่นเอกสารขอรับบริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่แจ้งหรือส่งใบอนุญาตให้ทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ ไม่ต้องไปรับด้วยตนเอง

นอกจากนี้ ยังสามารถรับเงินจ่ายเงินออนไลน์ พร้อมได้ใบเสร็จ เมื่อประชาชนนำเอกสารตัวจริงมาแล้ว เจ้าหน้าที่ต้องทำสำเนาและรับรองเอง ประชาชนไม่ต้องเสียเงินจ่ายค่าถ่ายเอกสาร แสดงบัตรหรือใบอนุญาตทางอิเล็กทรอนิกส์ให้เจ้าหน้าที่ดูอีก โดยประชาชนยังสามารถตรวจใบอนุญาตทางออนไลน์ได้

“หน่วยงานรัฐทุกหน่วยต้องมีช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น อีเมลกลางของหน่วยงาน เพื่อเป็นช่องทางให้บริการประชาชน ซึ่งนอกจากจะเป็นประโยชน์แก่การดำเนินชีวิตและการประกอบอาชีพของประชาชน การทำธุรกรรมของภาคเอกชน ยังเป็นความสำเร็จของรัฐบาลในการยกระดับรูปแบบการบริหารงานและการบริการภาครัฐไปสู่ระบบดิจิทัลด้วย” นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.it24hrs.com/

จำนวนคนดู : 11